ThongchaiTongsai

This WordPress.com site is the bee's knees


ใส่ความเห็น

บทสรุป เหตุผล ที่เลือกใช้โปรแกรม

บทสรุป เหตุผล ในการเลือกใช้โปรแกรม (Program Anti-Virus)

AVG_Anti-Virus_Free_2012_2012_Anti-Virus_Software_159641

ข้าพเจ้าเลือกใช้โปรแกรม AVG Antivirus เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่ให้บริการฟรี โปรแกรมสแกนไวรัส AVG Antivirus ตัวนี้ยังสแกนไวรัส และ ป้องกันไวรัส ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างเสถียร รวดเร็ว และมีการ Update ข้อมูลไวรัสอย่างรวดเร็ว แถมยังไม่หน่วงเครื่องของคุณอีกต่างหากแถมยังมีฟังก์ชั่น Real-time Protection เปรียบเสมือนยามค่อยเฝ้ามองไวรัสอยู่ตลอดเวลา

คุณสมบัติที่โดดเด่นของโปรแกรมสแกนไวรัส

  • ให้ความสนใจ และใส่ใจในเรื่องของความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในขณะออนไลน์ หรือ เล่นอินเทอร์เน็ต โดยมีการเพิ่มส่วนของ ความสามารถการหั่นไฟล์ (File Shredder) เข้าไปในโปรแกรมด้วย ให้ลบไฟล์ได้หมดจด ไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้อีก
  • ปรับปรุงความสามารถในการสแกนไวรัส ให้คุณปลอดภัยและมั่นใจจากภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ตให้มากขึ้น
  • ปรับปรุงเรื่องการปกป้อง ป้องกันทางอีเมล์
  • ระบบ File Reputation เพื่อใช้ปรับปรุงความสามารถของการตรวจจับไวรัส การแพร่ของไวรัส จากเครื่องของผู้ใช้งานแต่ละเครื่อง ถ้าพบว่ามีการแพร่ หรือติดไวรัส ในเครื่องที่ใช้ โปรแกรม AVG ก็จะยกระดับการสแกนไวรัส ให้สูงขึ้น โดยข้อมูลดังกล่าวแชร์ผ่านระบบคลาวด์ โดยจะแชร์เฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว หรือ พฤติกรรมการใช้งานคอมพิวเตอร์ ของผู้ใช้งานแต่อย่างใด

 


ใส่ความเห็น

ประวัติการรถไฟแห่งประเทศไทย

ความสนใจในกิจการรถไฟในประเทศไทยเริ่มขึ้นในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. ๒๓๙๘ คณะราชทูตจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย สมเด็จพระราชินีแห่งประเทศอังกฤษ ได้นำเครื่องราชบรรณาการ และพระราชสาส์นมาถวาย พร้อมทั้งนำสนธิสัญญาฉบับแก้ไขใหม่มาแลกเปลี่ยนกับรัฐบาลไทย ส่วนหนึ่งของเครื่องราชบรรณาการที่นำมาถวายในครั้งนั้น เป็นรถไฟจำลองซึ่งย่อส่วนจากของจริง ประกอบด้วยรถจักรไอน้ำ และรถพ่วงครบขบวน สามารถแล่นบนรางด้วยแรงไอน้ำทำนองเดียว กับรถใหญ่ที่ใช้อยู่ในเกาะอังกฤษ ปรากฏว่า เป็นที่สนพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ และได้ทรงมีพระราชดำริที่จะสถาปนากิจการรถไฟขึ้นในประเทศไทย

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๒๙ ซึ่งเป็นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น รัฐบาลไทยได้อนุมัติสัมปทานแก่บริษัทชาวเดนมาร์ก เพื่อสร้างทางรถไฟสายแรกขึ้นในประเทศไทย ระหว่าง กรุงเทพฯ-สมุทรปราการ แต่บริษัทยังขาดทุนทรัพย์ จึงมิได้ดำเนินการก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยืมทุนทรัพย์ไปสมทบด้วยส่วนหนึ่ง และได้เสด็จพระราชดำเนินแซะดินเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ กับได้เปิดทางรถไฟ ณ สถานีสมุทรปราการ เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๖ โดยใช้รถจักรไอน้ำลากจูง แต่ต่อมาภายหลังเปลี่ยนใช้รถไฟฟ้า ทางรถไฟสายนี้ได้ยุบเลิกกิจการไป เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๓

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมรถไฟ อยู่ในสังกัดกระทรวงโยธาธิการ โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์เป็นเสนาบดี และนาย เค. เบธเก (K. Bethge) ชาวเยอรมัน เป็นเจ้ากรมรถไฟ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้โปรดฯ ให้มีการเปิดประมูลสร้างทางรถไฟ สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๓๔ และในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ การก่อสร้างได้สำเร็จลงบางส่วน พอที่จะเปิดการเดินรถได้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟ ระหว่างสถานีกรุงเทพฯ-อยุธยา ระยะทาง ๗๑ กม. เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ การรถไฟ จึงได้ถือเอาวันที่ ๒๖ มีนาคม เป็นวันสถาปนาของรถไฟ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา การก่อสร้างระยะที่ ๒ จากอยุธยาผ่านชุมทางบ้านภาชีถึงสถานีแก่งคอย ระยะทาง ๕๓ กม. และจากสถานีแก่งคอยถึงสถานีนครราชสี มาแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๔๔๓

เพื่อเป็นการสะดวกในการก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้แยกกรมรถไฟออกเป็น ๒ กรม คือ กรมรถไฟหลวงสายเหนือ และกรมรถไฟหลวงสายใต้

การก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือจากชุมทางบ้านภาชีถึงเชียงใหม่ ระยะทาง ๖๖๑ กม. ได้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๙

การก่อสร้างทางรถไฟไปสู่ภาคใต้ของประเทศ ซึ่งเริ่มต้นจากสถานีธนบุรี (บางกอก น้อย) ไปถึงจังหวัดเพชรบุรีนั้น ได้ดำเนินการเป็นตอนๆ และได้สร้างท่าเรือขึ้นรวม ๓ แห่ง คือที่กันตัง สงขลา และบ้านดอน (สุราษฎร์ธานี) พร้อมทั้งได้สร้างโรงงานชั่วคราวขึ้นที่สงขลาและกันตัง เพื่อประกอบรถจักรและล้อเลื่อน ซึ่งได้ลำเลียงมาจากต่างประเทศโดย ทางเรือ การก่อสร้างทางสายใต้จึงสร้างจากเพชรบุรีลงไปทางใต้ และจากสงขลา กันตัง ขึ้นมาทางเหนือบรรจบกันที่ชุมพร และได้สร้างทางต่อจากสถานีหาดใหญ่ถึงสถานีปาดังเบซาร์และสุไหงโก-ลก พร้อมกับได้เปิดการเดินรถเป็นตอนๆ การก่อสร้างทางประธาน สายใต้จากธนบุรี-สุไหงโก-ลก ระยะทาง ๑,๑๔๔ กม. เสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๒ ปลายทางของทางรถไฟสายนี้ต่อเชื่อมกับรถไฟมลายาที่สถานีร่วมสุไหงโก-ลก และปาดังเบซาร์

l4-173

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดการเดินรถไฟสายแรกจากกรุงเทพฯ ไปอยุธยา

เนื่องจากทางรถไฟสายเหนือที่สร้างขึ้นเป็นทางขนาดกว้าง ๑.๔๓๕ เมตร อันเป็นขนาดมาตรฐานสากลที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ในโลก (Standard Gauge) ส่วนทางสายใต้เป็นทางขนาดกว้าง ๑ เมตร (Meter Gauge) จึงก่อให้เกิดความไม่สะดวกในการจะเดินทางติดต่อร่วมกัน ทำให้ต้องขนถ่ายสับเปลี่ยน แทนที่จะขนส่งได้ทอดเดียวถึง ต่อมาได้มีการเปลี่ยนทางจากขนาดกว้าง ๑.๔๓๕ เมตร เป็น ๑ เมตร เหมือนกันทั้งหมด แล้วให้สร้างทางแยกจากสถานีบางซื่อ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระราม ๖ ไปบรรจบกับทางสายใต้ที่สถานีตลิ่งชัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้การคมนาคมทางรถไฟสามารถเชื่อมโยงติดต่อกันได้โดยสะดวก ทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งให้ความสะดวก ในการเดินรถติดต่อกับการรถไฟของประเทศใกล้เคียง เช่น การรถไฟมลายา การรถไฟสิงคโปร์ การรถไฟกัมพูชา ซึ่งมีขนาดของทางกว้าง ๑ เมตร เช่นเดียวกันด้วย

ในระหว่างที่การก่อสร้างทางสายเหนือและสายใต้ใกล้จะเสร็จ ก็ได้เริ่มทำการก่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายตะวันออกต่อไปอีก คือ จากนครราชสีมา ถึงสถานีอุบลราชธานี และสถานีขอนแก่น และจากสถานีกรุงเทพฯ ถึงสถานีอรัญประเทศ

ภายหลัง พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้มีการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มเติมในสายต่างๆ อีก คือ สายตะวันออกเฉียงเหนือจากสถานีขอนแก่น ถึงสถานีหนองคาย ระยะทาง ๑๗๕ กม. สาย ตะวันออกจากสถานีจิตรลดา ถึงสถานีมักกะสัน ระยะทาง ๓ กม. สายเหนือสร้างเพิ่ม เป็นทางคู่จากสถานีกรุงเทพฯ ถึงสถานีชุมทางบ้านภาชี และสายใต้ ถึงสถานีวังโพและสุพรรณบุรี กับจากสถานีทุ่งโพธิ์ ถึงสถานีคีรีรัฐนิคม รวมทางประธานที่เปิดการเดินรถทั่ว ประเทศตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นระยะทางทั้งสิ้น ๓,๘๕๕ กม.

ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติ จัดตั้งองค์การรถไฟขึ้น เรียกว่า “การรถไฟแห่งประเทศไทย” โดยให้โอนกิจการของกรม รถไฟให้องค์การนี้ทั้งหมด โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตัวคณะกรรมการรถไฟขึ้น ดูแลควบคุมกิจการขององค์การ และรัฐได้มอบเงินจำนวน ๓๐ ล้านบาท ให้เป็นเงินสมทบทุนประเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทย

การบริหารกิจการรถไฟเกี่ยวกับด้านเดินรถและด้านพาณิชย์ได้ก้าวหน้ามาตามลำดับ โดยเฉพาะในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ การรถไฟได้รับการติดต่อจากการรถไฟกัมพูชา และจากการรถไฟมลายา ขอให้เปิดการประชุม เพื่อเจรจาหารือทำความตกลงกัน เกี่ยวกับการเดินขบวนรถเชื่อมต่อกัน ผลของการประชุม คือ

ก. คณะผู้แทนรถไฟกัมพูชาได้เจรจาเรื่อง การเชื่อมทางรถไฟกัมพูชากับรถไฟ ไทยในทางรถไฟสายตะวันออก (สายอรัญประเทศ) และได้เปิดการเดินรถไฟติดต่อระหว่าง ประเทศ ในวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๘ ต่อมาได้หยุดการเดินรถไฟไประยะหนึ่งตั้งแต่ วันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๔ แล้วเปิดการเดินรถใหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓ แต่ก็ได้ยุติการเดินรถอีก เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๗

ข. รัฐบาลมาเลเซียได้เจรจาขอเปิดการเดินรถไฟเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศมาเลเซียขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้ระงับการเดินรถร่วมกันในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ คณะผู้แทนรถไฟมลายาได้เจรจาข้อตกลงเกี่ยวกับ การเดินรถไฟติดต่อร่วมทางผ่านแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ตามนัยแห่งสัญญาเดิมที่ทำไว้ต่อกัน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ โดยแก้ไขบ้างบางประการ และได้ตั้งต้นปฏิบัติตามข้อตกลงใหม่นี้ตั้งแต่ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นต้นมา

อ้างอิง

http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=4&chap=7&page=t4-7-infodetail03.html


ใส่ความเห็น

ระบบ E-Payment ธ.กรุงศรีอยุธยา

ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์(E-Payment)

ในชีวิตประจำวันของประชาชนมีความเกี่ยวข้องกับการชำระเงินอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้า/บริการ การโอนเงิน หรือการทำธุรกรรมการเงินอื่นใด การขยายตัวของเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้การบริการด้านการชำระเงินมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยรูปแบบการชำระเงินมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น การให้บริการมีความรวดเร็วและคล่องตัวมากขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชน และมีผู้ให้บริการรายใหม่ๆ เกิดขึ้น รวมทั้งมีการนำเอากระบวนการชำระเงินเข้าไปในระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกกันว่า ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Payment)

 

Electronic Payment system (ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์) คือ กระบวนการส่งมอบหรือโอนสื่อการชำระเงินเพื่อชำระราคา   โดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม โทรสาร โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

ขั้นตอนการชำระเงิน

  1. ตกลงซื้อสินค้า กรอกข้อมูลบัตรเครดิต *ข้อมูลส่วนนี้ทางร้านไม่สามารถเห็นได้
  2. ส่งข้อมูลไปยัง Acquiring Bang (ธนาคารที่ฝ่ายร้านค้าใช้บริการอยู่)

3.Acquiring Bang ทำการตรวจสอบมายังธนาคารผู้ออกบัตร ว่าบัตรเป็นของจริงและสามารถใช้ได้

4.Acquiring Bang ทำการเรียกเก็บเงินจากธนาคารผู้ออกบัตรz

  1. ธนาคารผู้ออกบัตรโอนเงินไปยัง Acquiring Bang เข้าสู่บัญชีร้านค้า
  2. ส่งข้อมูลการชำระกลับไปยังร้านค้า
  3. ร้านค้าส่งข้อมูลการชำระกลับไปยังลูกค้า เพื่อยืนยันการสั่งซื้อ

 

(E-Payment) มีกระบวนการการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากที่สุด ดังนี้

  1. สั่งซื้อและส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปให้ผู้ขาย
  2. ผู้ขายยืนยันส่งข้อมูลการสั่งซื้อกลับมายังผู้ซื้อ
  3. ผู้ขายรับข้อมูลการสั่งซื้อ(มองไม่เห็นเลขบัตรเครดิต)
  4. ผู้ขายส่งข้อมูล Encrypted Payment ไปยังเครื่องบริการด้านการจ่ายเงินทาง online (Cyber Cash Server)

5.Cyber Cash Server รับข้อมูลผ่านทาง Fire wall ถอดรหัสข้อมูลลูกค้าและส่งไปยังธนาคารผู้ขายและผู้ซื้อ

  1. ธนาคารผู้ขายร้องขอให้ธนาคารผู้ซื้อรับจ่ายเงินตามจำนวนเงินตามยอดบัตรเครดิต
  2. ธนาคารผู้ซื้อตรวจสอบข้อมูล แล้วส่งกลับไปว่าอนุมัติหรือไม่ และ transfer ยอดเงินให้ผู้ขาย

8.Cyber Cash Server รับข้อมูลส่งต่อไปยังผู้ขายเพื่อส่งข้อมูลไปยังผู้ซื้อต่อไปปัจจัยสู่ความสำเร็จ

 

ปัจจัยแห่งความสำเร็จมี 4 ประเด็น คือ

(1) การบริการลูกค้า เทคโนโลยีต้องเข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรกับประชาชน ลดขั้นตอนทางราชการที่ยุ่งยากซับซ้อน ให้สารสนเทศที่ทันสมัยและตรงกับความต้องการ

(2) การออกแบบและประเมินผล บริการต้องมีการบริหารจัดการที่ดีและรักษาระบบให้มีเสถียรภาพแม้ในภาวะวิกฤติ กำหนดนโยบายและกระบวนการรับข้อร้องเรียนที่ชัดเจน ติดตามผลและปรับปรุงระบบช่วยสร้างการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง

(3) ความมั่นคง-ปลอดภัย บริการต้องอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมออนไลน์ และให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

(4) การเห็นคุณค่าและความสำคัญ บริการที่ดีต้องถูกให้ความสำคัญในลำดับสูงสุดจากทุกภาคส่วน ผู้นำประเทศ นักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ระดับสูง และพนักงานของรัฐ ต้องให้การสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้และตอบข้อสงสัยแก่ประชาชนผ่านการสื่อสารสองทางอย่างประสิทธิภาพ

(5) การรักษาความปลอดภัย
ความต้องการการรักษาความปลอดภัย (security requirements) มีองค์ประกอบ ดังนี้
1.ความสามารถในการระบุตัวตนได้ (Anthentication)
2.ความเป็นหนึ่งเดียวของข้อมูล (Integriry)
3.ความไม่สามารถปฏิเสธได้ (Non-repudiation)
4.สิทธิส่วนบุคคล (Privacy)
วิธีการรักษาความปลอดภัย 
• การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)

 

ประโยชน์ e-payment ในองค์กร

  1. การสั่งชำระเงิน และการรับชำระเงินมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

ด้วยระบบ E – Pay ท่านไม่จำเป็นต้องเดินทางไปชำระเงินด้วยวิธีการเดิมๆ อีกต่อไป ท่านสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากร และเวลาที่เสียไปจากการเดินทางรวมถึงความเสี่ยงจากการถือเงินสด เป็นต้น

  1. เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารการเงิน

เนื่องจากการบริการ E – Pay เป็นการชำระเงินแบบ Online และ Real Time จึงเพิ่มความสะดวกในกรณีที่ท่านต้องการสั่งชำระเงินเป็นกรณีเร่งด่วนโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเพื่อไปชำระเงินเหมือนระบบเดิม โดยผู้รับเงินสามารถรับเงินและนำเงินไปบริหารต่อได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 นาที โดยไม่ต้องรอการเคลียร์ริ่งของธนาคาร ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารเงินสดของบริษัทอีกทางหนึ่ง

  1. ลดความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลการทำรายการ

ระบบ E – Pay จะดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลมาใช้ เช่น เลขที่บัญชีผู้มีอำนาจในการสั่งจ่าย ,

วงเงินในการสั่งจ่าย เป็นต้นทำให้ท่านสามารถทำงานได้รวดเร็วและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดพิมพ์เอกสารได้ทำให้การดำเนินงานทางด้านบัญชีและการเงินของบริษัทจึงมีความสะดวก รวดเร็ว

และถูกต้องมากยิ่งขึ้น

  1. การยืนยันการตัดบัญชีและการนำเงินเข้าบัญชี

ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้สั่งชำระเงิน หรือรับชำระเงินก็จะได้รับข้อความยืนยันการตัดบัญชี (Debit Advice)และข้อความยืนยันการนำเงินเข้าบัญชี (Credit Advice) จากธนาคารผ่านระบบ E – Payเมื่อรายการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์โดยท่านไม่ต้องสอบถามผลของการทำรายการไปที่ธนาคารโดยตรง

  1. เสริมสร้างความคล่องตัวในการทำงาน

ท่านสามารถเลือกใช้บริการกับธนาคารต่างๆ ที่เข้าร่วมให้บริการ หรือเปลี่ยนแปลงไปใช้ธนาคารอื่นในภายหลังก็ทำได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องเปลี่ยนโปรแกรมหรือขั้นตอนการทำงานแต่อย่างใด

 

อ้างอิง

http://somsukjalarn.blogspot.com/2012/03/e-payment.html

 

กรุงศรี e-Payment (direct debit)

Krungsri e-Payment เป็นบริการรับชำระเงินที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ที่ดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) ผ่านทาง
อินเทอร์เน็ต บริการนี้ช่วยให้ผู้ซื้อสินค้าสามารถเลือกซื้อสินค้า/บริการและชำระเงินได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ทุกที่ทุกเวลาตาม
ต้องการ ด้วยความมั่นใจจากระบบความปลอดภัยระดับสากล เป็นอีกระดับของบริการที่ช่วยให้การบริหารการขายมีประสิทธิภาพ
มากขึ้น

 

คุณลักษณะบริการ
– บริการรับชำระเงินค่าสินค้า/บริการบนเว็บไซต์ของร้านค้าออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

– ผู้ซื้อสามารถเลือกวิธีการชำระเงินได้ 2 วิธี ได้แก่
(1) ชำระด้วยการหักบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีฯ (Direct Debit) โดยผู้ซื้อต้องเป็นสมาชิกกรุงศรีออนไลน์
(Krungsri Online : KOL)
(2) ชำระด้วยบัตรเครดิต (Credit Card) ได้แก่ Visa, MasterCard จากทุกสถาบันการเงินทั่วโลก
– รองรับ 13 สกุลเงินหลัก ได้แก่ THB, USD, EUR, JPY, GBP, CHF, AUD, HKD, SGD, DKK, NOK, SEK และ CNY
– อนุมัติรายการสั่งซื้อสินค้า/บริการของผู้ซื้อแบบทันที (Real-Time Authorization) และแจ้งผลการทำรายการสั่งซื้อ
แก่ผู้ซื้อและร้านค้าทันที (Instant Online Confirmation)
– ระบบ e-Mail Confirmation เพื่อแจ้งให้ร้านค้าและผู้ซื้อรับทราบถึงผลการทำรายการนั้นๆ
– รองรับการเชื่อมต่อผ่านเว็บไซต์ของร้านค้าได้หลายภาษาโปรแกรม โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ ที่ระบบของร้านค้า
(Easy to Use)
– ร้านค้าจะได้รับเงินค่าสินค้า/บริการ หลังจากทำการสรุปยอดขายส่งให้แก่ธนาคารในวันทำการถัดไปทันที (Get Paid Fast)
– รองรับการทำรายการด้วยบัตรที่ลงทะเบียน Verified by Visa (VbV), MasterCard SecureCode (MCSC) และ J/Secure

– สามารถปรับแต่งรูปแบบของหน้าชำระเงินเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจ และเข้ากันได้กับ website ของร้านค้า

 

 

ระบบ Krungsri Payment Manager (Merchant Back Office Admin.) โดยมี feature หลักๆ ดังนี้
o ค้นหารายการสั่งซื้อ (Order Search)
o การเรียกเก็บเงิน/การคืนวงเงิน รายการสั่งซื้อ (Settlement/Void) โดยสามารถเรียกเก็บเงินได้แบบบางส่วนหรือเต็มจำนวน
(Partial/Full Settlement)
o รายงานต่างๆ (Reports)
o ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารผ่านอีเมล์ (Contact Us via e-Mail Service)
o เปลี่ยนรหัสผ่าน (Change Password)
o รับทราบข่าวสารและความเคลื่อนไหว (News and Messages)

 
มั่นใจในความปลอดภัยมาตรฐานสูงสุด
เพราะเข้าใจดีว่า ระบบความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนั้นธนาคารจึงให้ความสำคัญ
กับการเลือกสรรเทคโนโลยีโดยธนาคารเลือกใช้ระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล
1. การติดตั้ง Firewall 2 ชั้น
2. การเข้ารหัสข้อมูล SSL (Secured Socket Layer) ที่ 128 bits ของ Verisign ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
3. การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยโดยมีการเข้ารหัสทุกขั้นตอนของการรับส่งข้อมูล (End to End Encryption)
4. Fraud Protection เป็น feature หลักที่ถูกพัฒนามาเพื่อตรวจสอบและแจ้งถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ภายใต้การใช้
บัตรเครดิตใบนั้นๆ (ช่วยร้านค้าในการตัดสินใจในการเรียกเก็บเงินหรือไม่ เท่านั้น)
5. Fraud Blocking ร้านค้าสามารถเลือกทำการรับหรือไม่รับรายการที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริตของบัตรสูงได้
นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรับบัตรแต่ละประเภทได้อย่างอิสระ
6. 3D Secure : Verified by Visa (VbV), MasterCard SecureCode (MCSC) และ J/Secure เพื่อเพิ่มความปลอดภัยขั้นสูงสุด
ในการคุ้มครองผู้ซื้อ และร้านค้าจากการโจรกรรมบัตรหรือการปลอมแปลงเบอร์บัตร

ดังนั้นจึงสามารถเชื่อใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญของการทำธุรกรรมของผู้ซื้อ/ร้านค้าจะได้รับการป้องกันอย่างดีที่สุดภายใต้ระบบ
Krungsri e-Payment

 

กระบวนการทำงาน
1. ผู้ซื้อเข้ามาที่เว็บไซต์ร้านค้าและเลือกซื้อสินค้า/บริการตามที่ต้องการ
2. ผู้ซื้อสินค้า/บริการ สามารถชำระเงินบนเว็บไซต์ของร้านค้าผ่าน Krungsri e-Payment ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถ
เลือกวิธีการชำระเงินได้ 2 วิธี คือ
(1) Direct Debit: หักบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีฯ ของผู้ซื้อที่เป็นสมาชิกกรุงศรีออนไลน์
(กรอก User ID & Password ของกรุงศรีออนไลน์)
(2) Credit Card: หักบัญชีบัตรเครดิต Visa, MasterCard จากทุกสถาบันการเงินทั่วโลก
(กรอกข้อมูลบัตรเครดิต)
3. ร้านค้าส่งรายการสั่งซื้อและยอดชำระเงินมายังระบบ Krungsri e-Payment เพื่อทำการส่งข้อมูลคำสั่งซื้อไปยังธนาคาร
4. ธนาคารจะพิจารณาอนุมัติรายการสั่งซื้อสินค้า/บริการและวงเงินของผู้ซื้อแบบทันที (Real-Time Authorization) และแจ้งผล
การทำรายการแก่ผู้ซื้อและร้านค้าทันที (Instant Online Confirmation และ e-Mail Confirmation) ผ่านระบบ
Krungsri e-Payment
5. ผู้ซื้อสินค้า/บริการจะเห็นหน้าจอแสดงผลการทำรายการจากเว็บไซต์ร้านค้า
6. เมื่อร้านค้ายืนยันการจัดส่งสินค้ากับผู้ซื้อสินค้าแล้ว สามารถดำเนินการตรวจสอบรายการ (Transaction Log) สรุปยอดขาย
(Settlement) และเรียกดู/จัดพิมพ์รายการต่างๆ (Reporting) ได้จากระบบ BAY Payment Manager ได้ตลอด24ชม. ผ่านทาง
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Real-Time Sales Tracking with Online System
7. ร้านค้าจะได้รับเงินค่าสินค้า/บริการ หลังจากทำการสรุปยอดขายส่งให้แก่ธนาคารในวันทำการถัดไปทันที
(Get Paid Fast)

 

ขั้นตอนในการสมัครเป็นร้านค้าสมาชิก
1. เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ทุกสาขา เพื่อใช้เป็นบัญชีรับเงินของร้านค้า
2. กรอกแบบฟอร์มใบสมัครของธนาคาร โดยสามารถ Download ได้จากเว็บไซต์ธนาคาร
http://www.krungsri.com/epayment.htm
3. นำส่งแบบฟอร์มใบสมัคร พร้อมแนบเอกสารประกอบ แก่สาขาเจ้าของบัญชี
4. ธนาคารอนุมัติการสมัครบริการฯให้บริษัท/ร้านค้า
5. บริษัท/ร้านค้าลงนามทำสัญญาเพื่อขอใช้บริการ Krungsri e-Payment ของธนาคาร
6. ธนาคารติดต่อบริษัท/ร้านค้าเพื่อร่วมทดสอบระบบ Krungsri e-Payment โดยร้านค้าสามารถทดลองใช้งานระบบ
Krungsri Payment Manager เพื่อเรียกดูรายการและ รายงานประเภทต่างๆ
7. บริษัท/ร้านค้าแจ้งธนาคารถึงกำหนดพร้อมเปิดใช้บริการ
8. เมื่อทดสอบแล้วเสร็จ ธนาคารนำส่ง Merchant ID ชุดใช้งานจริงและ User ID & Password ในการเข้าสู่ระบบ
Krungsri Payment Manager ให้แก่บริษัท/ร้านค้า
9. ระบบ Krungsri e-Payment พร้อมให้บริการ

ระยะเวลาทั้งสิ้นนับตั้งแต่ธนาคารได้รับเอกสารจากบริษัท/ร้านค้า จนกระทั่งพร้อมให้บริการได้อยู่ที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์
ขึ้นอยู่กับ ความครบถ้วนของเอกสารทั้งหมดที่บริษัท/ร้านค้ายื่นต่อธนาคาร และความพร้อมทางด้านเทคนิคของร้านค้า/บริษัท
ในการการเชื่อมต่อระบบ

 

เงื่อนไขการใช้บริการ
1. ร้านค้าผู้สมัครจะต้องมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวันของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
2. เป็นร้านค้าประเภทนิติบุคคล ที่ได้ทำการจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ปี และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (กรณีไม่ครบ 1 ปี
ต้องมีทุนจดทะเบียน และเรียกชำระไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท)
3. ธุรกิจที่ร้านค้าประกอบต้องเป็นการขายสินค้า/บริการที่ไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม

 

    ตัวอย่างประเภทธุรกิจที่ผิดกฎหมายและศีลธรรม เช่น
-ธุรกิจขายยาทุกประเภท ธุรกิจขายบุหรี่ ยาเส้น สารเสพติดทุกชนิด
-ธุรกิจขายสินค้าอบายมุข สื่อลามก อนาจาร ธุรกิจการจัดหาคู่
-ธุรกิจ Time Sharing Business ธุรกิจ Cyber Mall
-ธุรกิจขายอาวุธ ธุรกิจการพนัน เป็นต้น
4. มีสถานที่ประกอบการตั้งอยู่ในประเทศไทย และมีความน่าเชื่อถือ
5. ผู้ถือหุ้นต้องมีประวัติการเงินที่ดี
6. ในกรณีที่ลูกค้าปฏิเสธการชำระเงิน ร้านค้ายินยอมให้ธนาคารดำเนินการตัดเงินในบัญชีร้านค้าได้ โดยธนาคารจะแจ้ง
ให้ร้านค้าทราบล่วงหน้า
7. ร้านค้าจะต้องมีเงินค้ำประกันกับธนาคาร โดยเงินประกันดังกล่าวจะได้รับคืนหลังจากยกเลิกสัญญากับธนาคารไม่น้อยกว่า
6 เดือน

เอกสารประกอบการสมัคร
1. สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม (อายุ 20 ปีขึ้นไป) และหากเป็นชาวต่างชาติ แสดงสำเนาหนังสือเดินทางและ
work permit
2. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงนาม
3. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด พร้อมวัตถุประสงค์ต้องจดทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปีขึ้นไป (อายุไม่เกิน 30 วัน)
4. สำเนาหนังสือรับรองตราประทับบริษัทฯ (บอจ.3)
5. สำเนาสัดส่วนผู้ถือหุ้น (บอจ.5) กรณีที่กรรมการถือหุ้นเกิน 20% ให้แนบสำเนาบัตรประชาชน
6. สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ
7. สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT ID) (ภพ.20)
8. ผลประกอบการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
9. สำเนาหนังสือทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ถ้ามี)
10. แผนที่และรูปถ่ายที่ตั้งสถานประกอบการ
11. เอกสารแสดงสถานการณ์ครอบครองสถานที่ประกอบการหรือสัญญาเช่า
12. พิมพ์ตัวอย่างโฮมเพจของร้านค้า (หน้าแรกของเว็บไซต์)
13. อากรแสตมป์ 30 บาท
14. กรณีที่เป็นธุรกิจ Travel Agent ที่จัดนำเที่ยว จะต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งออกโดยการท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทย (ททท.)
15. กรณีเป็นธุรกิจที่มีลิขสิทธิ์ ต้องมีเอกสารแสดงความป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
หมายเหตุ
1. เอกสารทุกแผ่นต้องลงนามรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมประทับตรา
2. ธนาคารขอสงวนสิทธิ์สำหรับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

 

อัตราค่าธรรมเนียม
• ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: 4,000 บาท/Merchant ID
• ค่าธรรมเนียมรายปี: 2,000 บาท/Merchant ID ยกเว้นกรณีมีรายการที่สรุปยอดขายแล้ว เกินกว่า 20 รายการต่อปี)
• ค่าธรรมเนียมต่อรายการการทำธุรกรรม:
– ชำระด้วยบัตรเครดิต Visa, MasterCard  3-5% ของมูลค่าขาย
– ชำระโดยวิธีการหักบัญชีเงินฝาก: รายการละ 20 – 100 บาททั่วประเทศ(โดยร้านค้าหรือผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียม)
• ร้านค้าจะต้องมีวงเงินประกันขั้นต่ำที่ต้องฝากไว้ในบัญชีของกิจการที่เปิดไว้อยู่กับธนาคาร (ขั้นต่ำ 200,000 บาท) ซึ่งจำนวนเงิน
ดังกล่าว จะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ของร้านค้า อาทิ ประเภทธุรกิจ ลักษณะสินค้า ราคา และระยะเวลาดำเนินกิจการเป็นต้น
(ทั้งนี้การกำหนดวงเงินดังกล่าวขึ้นอยู่กับธนาคารจะเห็นสมควร)

 

อ้างอิง

http://www.krungsri.com/th/consumer-detail.aspx?did=379


ใส่ความเห็น

Avira AntiVirus Premium

299_1403041717486f

โฉมใหม่ของ AVIRA พบกับเวอร์ชั่นใหม่ของโปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดงชื่อดัง โปรแกรม AVIRA Antivirus Suite ซึ่งในเวอร์ชั่นที่แล้วใช้ชื่อว่า AVIRA Antivirus Premium โดยที่เจ้า {โปรแกรมสแกนไวรัส} AVIRA Antivirus Suite ได้ถูกพัฒนาใหม่ ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันมากขึ้น และใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม มั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพ และความปลอดภัย โดยมีผู้ใช้งานโปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดงมากกว่า หลายล้านคนทั่วโลก AVIRA Antivirus Suite ทำงานได้รวดเร็ว ง่ายต่อการป้องกันไวรัสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ สปายแวร์ ม้าโทรจัน แอดแวร์ หรือเวิร์ม ที่จะมาทำร้ายคอมพิวเตอร์ของคุณ จากสื่อออนไลน์ต่างๆ อีกทั้ง โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง ยังสามารถจัดการปราบไวรัสได้มากกว่า 300,000 ชนิด ทำให้คุณมั่นใจได้เลยแม้คุณจะดาวน์โหลดรูปภาพ เพลง วีดีโอ โปรแกรม หรือเกม ก็สบายหายห่วง

ลักษณะเด่นของ Avira Antivirus
  • ตรวจจับไวรัส สูงสุด
  • ท่องเน็ตปลอดภัย
  • Shopping Online สบาย ใจ
  • ดาวน์โหลดไร้กังวล
  • โปรแกรมเบาหวิว ไม่หน่วงเครื่อง ใช้เครื่องสบายใจ
  • สร้างแผ่นบู๊ตไว้แก้ปัญหาเครื่องติด ไวรัส
คุณสมบัติพิเศษจาก โปรแกรม AVIRA Antivirus Suite 
  • การป้องกันด้วย ข้อมูลสำรอง : เพื่อความปลอดภัยในข้อมูลของคุณ คุณสามารถอัพโหลดข้อมูลเก็บสำรองไว้ได้ บนฐานเก็บข้อมูลสำรองขอ AVIRA ที่ให้คุณมาถึง 5 GB
  • เอกลักษณ์พิเศษ : ด้วยเทคโนโลยีระบบตรวจจับพิเศษ ไม่ว่ามัลแวร์จะแอบซ่อนอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็ไม่พ้นสายตาของระบบนี้
  • การป้องกันความปลอดภัยสำหรับแอนดรอยด์ : มีการกรองความปลอดภัยทั้งใน การโทร ข้อความ SMS, MMS, เบอร์โทรศัพท์ต่างๆ และให้ผู้ใช้มีความเป็นส่วนตัวสูง
  • ได้รับการสนับสนุนฟรี : โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง AVIRA สนับสนุนการพัฒนาให้ความช่วยเหลือผู้ใช้อย่างเป็นมิตร
เมื่อพูดถึงความสามารถของ โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง AVIRA Antivirus Suite ต้องบอกได้เลยว่า นอกจากที่จะปราบเหล่าไวรัสทั้งหลายแล้ว โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดงยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นกว่าโปรแกรมสแกนไวรัสตัวอื่นๆ อีกด้วย อย่างเช่น เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ 1 ตัว สามารถลงใช้งานได้หลายเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นพีซี โน้ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์แอนดรอยด์ ก็ตาม หรือการป้องกันบนเน็ตเวิร์ค โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง AVIRA Antivirus Suite ตัวใหม่นี้ จะไม่สแกนแค่ไฟล์ หรือแฟ้มของคุณ แต่ยังมีการสแกนไฟล์ที่คุณแชร์ให้คนอื่น และที่คนอื่นแชร์ให้คุณ อีกทีหนึ่งอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่ง ที่จะไม่ให้คุณได้รับไวรัส หรือมัลแวร์อย่างแน่นอน
299_13111818364801
ในด้านฐานข้อมูลบน โปรแกรมสแกนไวรัส AVIRA Antivirus Suite พวกเขาได้นำเทคโนโลยีสแกนไวรัสที่ทันสมัยที่สุดมาใช้งาน เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือ และรองรับการใช้งานในคอมพิวเตอร์ของคุณให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง มีการอัพเดทข้อมูลใหม่ตลอดเวลา ซึ่งผู้พัฒนาไม่ได้แค่ทดสอบโปรแกรมผ่านๆ แต่ยังมีการตรวจสอบระบบการทำงานทุกขั้นตอน และพัฒนาระบบต่างๆ ให้คุณใช้งานง่ายขึ้น ตั้งแต่การติดตั้ง การสแกนข้อมูล รูปร่างหน้าตาโปรแกรม หรือการเลือกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ พิเศษไปกว่านั้น ทาง AVIRA ได้นำเสนอสิทธิพิเศษให้ผู้ใช้ นั่นก็คือระบบจัดเก็บข้อมูลสำรอง ป้องกันการพลาดลบไฟล์ต่างๆ ให้กลับกู้คืนมา ซึ่งให้เนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูลสำรองฟรี 5 GB โดยเราสามารถอัพโหลดได้ผ่านทาง โปรแกรมแบ็คอัพออนไลน์ ของ AVIRA นั่นเอง
คุณสมบัติ และความสามารถของ โปรแกรมสแกนไวรัส AVIRA Antivirus Suite
  • ระบบป้องกันขั้นสูงแบบ Real-Time ใหม่
  • ด้วยระบบการป้องกันด้วยเทคโนโลยี Avira Protection Cloud Detection Technology ใหม่ ที่จะช่วยให้การป้องกันไวรัสไม่ว่าจะผ่านทางไฟล์ โปรแกรมติดตั้งต่างๆ ผ่านสื่อออนไลน์ เว็บไซต์ หรือสื่อโฆษณา ให้แน่นหนาขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
  • มีการปรับปรุงการป้องกันอุปกรณ์เครือข่าย เน็ตเวิร์คต่างๆ
  • โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง จะสแกนมัลแวร์ จากแหล่งข้อมูลออนไลน์ หรือไฟล์ ที่มีการแชร์ผ่านมายังเครื่องของเราอย่างละเอียด
  • เสริมระบบ AntiAdware และ AntiSpyware
  • นอกจากจะกำจัดไวรัส มัลแวร์แล้ว โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง ยังช่วยป้องกันและกำจัด ตัวรบกวน ที่แสนหน้ารำคาญอย่าง แอดแวร์ และสปายแวร์ที่มาก่อกวนคอมพิวเตอร์ของคุณได้อีกด้วย
  • โปรแกรม AVIRA Antivirus Suite มีระบบตรวจเช็ค เว็บไซต์ เพื่อความปลอดภัย
  • ระบบจะตรวจสอบความปลอดภัยให้คุณ ทุกเว็บไซด์ ที่คุณทำการเข้า หรือค้นหา
  • มีการป้องกันเว็บไซต์ด้วยระบบขั้นสูง
  • ดักตรวจสอบ และป้องกันเว็บไซต์อันตรายก่อนที่คุณจะทำการโหลดเว็บขึ้นมา ด้วยระบบขั้นสูง ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว
  • Browser Tracking Blocker เป็นระบบที่จะช่วยให้ความเป็นส่วนตัวของคุณกลับคืนมา ซึ่งตัวนี้จะป้องกันเว็บไซต์บางเว็บไซต์ ที่ทำหน้าที่ติดตาม ดูการทำงานของคุณ ตลอดเวลา โดยไม่ได้รับอนุญาต
  • รองรับระบบปฏิบัติการล่าสุด
  • โปรแกรม AVIRA Antivirus Suite รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows XP, 7 และล่าสุด 8 นอกจากนั้นยังรองรับระบบ MAC OSX และระบบปฏิบัติการบนมือถืออย่าง แอนดรอยด์
อ้างอิง